หลังทํา Ulthera หน้าบวมกี่วัน?
อะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้หน้าบวมหลังการทำ Ulthera?
สาเหตุหลักที่ทำให้หน้าบวมหลังการทำ Ulthera คือ ปฏิกิริยาการอักเสบและกระบวนการซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติของร่างกาย ต่อพลังงานความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์
การทำ Ulthera เป็นการส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อสร้างการบาดเจ็บแบบควบคุม (controlled injury) ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซม ในขั้นตอนนี้ หลอดเลือดจะขยายตัวชั่วคราวและมีของเหลวซึมออกมาสะสมในเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดอาการบวม (edema) อาการบวมนี้จึงเป็นสัญญาณปกติที่บ่งบอกว่าการรักษาได้ผลและกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
กลไกการทำงานของ Ulthera ที่ส่งผลต่อผิว
Ulthera ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงแบบเฉพาะเจาะจง (Micro-focused Ultrasound) เพื่อส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนังลึก ซึ่งเป็นการกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติของร่างกาย
พลังงานความร้อนที่ส่งลงไปจะทำให้เนื้อเยื่อในชั้นเป้าหมายเกิดการบาดเจ็บแบบควบคุม ร่างกายจะตอบสนองโดยการเริ่มกระบวนการรักษา ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ในช่วงหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนหลังการรักษา ส่งผลให้ผิวค่อยๆ ตึงกระชับและยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำไมบางคนบวมมากกว่าคนอื่น?
ความแตกต่างของอาการบวมหลังทำ Ultherapy เกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่ เทคนิคการรักษาและปัจจัยเฉพาะของแต่ละบุคคล
ปัจจัยที่ทำให้บางคนบวมมากกว่าคนอื่น ได้แก่:
- เทคนิคการรักษา: การใช้พลังงานหรือหัวยิงที่ไม่เหมาะสมกับความหนาของผิวในบริเวณที่ทำ อาจทำให้เนื้อเยื่อบาดเจ็บและบวมมากขึ้น
- อายุและสภาพผิว: ผู้ที่มีอายุมากอาจมีอาการบวมนานกว่าเนื่องจากการฟื้นตัวที่ช้ากว่า ในขณะที่ผิวที่หย่อนคล้อยมากอาจมีแนวโน้มที่จะบวมได้ง่ายกว่า
- การตอบสนองของร่างกาย: บางคนมีแนวโน้มที่จะบวมง่ายกว่าโดยธรรมชาติ หรือมีผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย ซึ่งจะทำให้เกิดอาการบวมได้ชัดเจนกว่าคนทั่วไป
โดยเฉลี่ยแล้ว หลังทํา Ulthera หน้าบวมกี่วัน?
โดยเฉลี่ยแล้ว อาการบวมหลังทำ Ulthera จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 2-3 วัน
อาการบวมจะมากที่สุดในวันที่ 2 หลังทำ และจะค่อยๆ ยุบลงหลังจากนั้น โดยผู้รับบริการส่วนใหญ่จะพบว่าอาการบวมที่มองเห็นได้จากภายนอกหายไปเกือบทั้งหมดภายใน 5-7 วัน
ไทม์ไลน์อาการบวมแบบวันต่อวัน: 1-7 วันแรก
ไทม์ไลน์อาการบวมหลังทำ Ultherapy ในช่วง 7 วันแรก โดยทั่วไปมีดังนี้:
- วันแรก: อาจมีอาการบวมเฉพาะที่เล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณแนวกรามและแก้ม พร้อมกับรู้สึกอุ่นๆ หรือเจ็บเมื่อสัมผัส
- วันที่ 2-3: เป็นช่วงที่บวมที่สุด (มักจะบวมสุดในวันที่ 2) ใบหน้าอาจดูอูมขึ้นเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปอาการบวมจะน้อยมากจนคนอื่นไม่สังเกตเห็น และจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในวันที่ 3
- วันที่ 4-5: อาการบวมที่เห็นได้ชัดจะลดลงไปมาก อาจเหลือเพียงอาการอูมเล็กน้อยในบางบริเวณ แต่ใบหน้าจะดูใกล้เคียงปกติ
- วันที่ 6-7: เมื่อครบหนึ่งสัปดาห์ อาการบวมที่มองเห็นได้จากภายนอกมักจะหายไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงความรู้สึกตึงๆ หรือบวมภายในเล็กน้อยที่เจ้าตัวรู้สึกได้เอง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการฟื้นตัวและอาการบวม
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออาการบวมและระยะเวลาฟื้นตัว ได้แก่ เทคนิคการรักษาของผู้เชี่ยวชาญ อายุและสภาพผิวของผู้รับบริการ และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
- เทคนิคการรักษา: การปรับระดับพลังงาน ความลึกของหัวยิง และระยะห่างของการยิงให้เหมาะสมกับความหนาของผิวแต่ละคน จะช่วยลดอาการบวมที่ไม่จำเป็นได้ ในทางกลับกัน หากใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เนื้อเยื่อบาดเจ็บและบวมมากขึ้น
- อายุและสภาพผิว: ผู้ที่มีอายุมากอาจมีอาการบวมนานกว่าเล็กน้อยเนื่องจากกระบวนการฟื้นตัวช้ากว่า ในขณะที่ผู้ที่อายุน้อยกว่าอาจบวมชัดเจนแต่หายเร็วกว่า นอกจากนี้ สภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้นหรือมีความหย่อนคล้อยมากอาจมีแนวโน้มบวมได้ง่ายกว่า
- การตอบสนองของร่างกาย: แต่ละบุคคลมีการตอบสนองต่อการอักเสบแตกต่างกัน บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะบวมง่ายกว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
5 วิธีลดอาการหน้าบวมหลังทำ Ulthera ที่ได้ผลจริง
1. เทคนิคการประคบเย็นที่ถูกต้องเพื่อลดอาการบวม
เทคนิคการประคบเย็นที่ถูกต้องคือ การใช้แผ่นประคบเย็นหรือถุงเจลเย็นห่อด้วยผ้าสะอาด ประคบครั้งละ 10-15 นาที แล้วพักอย่างน้อย 45 นาที โดยสามารถทำซ้ำได้เป็นระยะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังทำทรีตเมนต์
การประคบเย็นจะช่วยจำกัดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่ทำ ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือห้ามวางน้ำแข็งสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ หากไม่มีแผ่นเจลเย็น สามารถใช้ถุงผักแช่แข็งหรือผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแทนได้
ควรประคบเย็นบ่อยแค่ไหนและนานเท่าไหร่?
ควรประคบเย็นครั้งละ 10-15 นาที แล้วเว้นช่วงอย่างน้อย 45 นาที โดยสามารถทำซ้ำได้เป็นระยะในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
การประคบเย็นจะช่วยลดการไหลเวียนของเลือด บรรเทาการอักเสบ และลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้ผ้าสะอาดห่ออุปกรณ์ประคบเย็นเสมอเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ผิวหนัง
ใช้อะไรประคบแทนเจลเย็นได้บ้าง?
หากไม่มีเจลประคบเย็น สามารถใช้ ถุงผักแช่แข็ง (เช่น ถั่วลันเตา) หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น แทนได้ โดยสิ่งของเหล่านี้สามารถใช้ทดแทนได้ดีและแนบไปกับส่วนโค้งของใบหน้าได้สะดวกเช่นกัน
2. การนอนหนุนหมอนสูงช่วยลดอาการบวมได้อย่างไร?
การนอนหนุนหมอนสูงช่วยลดอาการบวมโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงเพื่อช่วยระบายของเหลวส่วนเกินออกจากใบหน้า ผ่านระบบน้ำเหลือง การจัดตำแหน่งให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวจะช่วยให้ของเหลวที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อไหลเวียนและถูกระบายออกไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการบวมที่ใบหน้า โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การดื่มน้ำให้เพียงพอสำคัญแค่ไหน?
การดื่มน้ำให้เพียงพอมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยในกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายและช่วยให้อาการบวมลดลงเร็วขึ้น
หลังทำ Ultherapy ควรตั้งเป้าดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำจะช่วยป้องกันการกักเก็บน้ำส่วนเกินในใบหน้า และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2-3 วัน เนื่องจากอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้อาการบวมแย่ลงได้
4. อาหารและเครื่องดื่มที่ควรรับประทานเพื่อช่วยลดบวม
เพื่อให้แผลหายเร็วและลดอาการบวม ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารโซเดียมต่ำ และเสริมด้วยอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่างนี้จะช่วยให้อาการบวมลดลงได้เร็วขึ้น:
- ดื่มน้ำให้มาก: ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเหลวส่วนเกินและระบายน้ำเหลืองได้ดีขึ้น
- รับประทานอาหารโซเดียมต่ำ: หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพราะโซเดียมจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและเกิดอาการบวมได้ง่าย
- รับประทานสับปะรด: สับปะรดมีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี
- เสริมวิตามินซีและโปรตีน: รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อช่วยในกระบวนการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจน
- อาหารต้านการอักเสบอื่นๆ: อาหารอย่างขมิ้นชัน (มีสารเคอร์คูมิน) และกรดไขมันโอเมก้า 3 (น้ำมันปลา) ก็มีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้เช่นกัน
5. ยาแก้ปวดลดบวมที่สามารถใช้ได้
ยาแก้ปวดลดบวมที่สามารถใช้ได้หลังทำ Ultherapy คือ ยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาแก้แพ้ (Antihistamines)
ยาเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาอาการบวมและความรู้สึกไม่สบายตัวได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs): เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (Aleve) สามารถช่วยลดทั้งอาการบวมและอาการปวดได้
- ยาแก้ปวด: หากมีอาการปวดแต่ไม่บวมมาก สามารถใช้ยาพาราเซตามอล (Acetaminophen/Tylenol) แทนได้ แต่ยาชนิดนี้ไม่ช่วยลดการอักเสบ
- ยาแก้แพ้ (Antihistamines): เช่น เซทิริซีน (Zyrtec) หรือไดเฟนไฮดรามีน (Benadryl) สามารถช่วยลดอาการบวมหรืออาการคันที่เกี่ยวข้องกับฮีสตามีนได้
ในกรณีที่พบการอักเสบรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก แพทย์อาจพิจารณาสั่งจ่ายยาสเตียรอยด์ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นสำหรับเคสปกติ
ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติเพื่อจัดการอาการบวมหลังทำ Ulthera มีอะไรบ้าง?
ข้อควรปฏิบัติเพื่อจัดการอาการบวมหลังทำ Ulthera คือ การประคบเย็น การนอนหนุนหมอนสูง การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการรับประทานยาแก้ปวดลดอักเสบตามความจำเป็น ในขณะที่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสความร้อน การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง
ข้อควรปฏิบัติ:
- ประคบเย็น: ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่ทำครั้งละ 10-15 นาที ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกเพื่อลดการอักเสบ
- นอนหนุนหมอนสูง: การนอนให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวในคืนแรกจะช่วยลดอาการบวมในตอนเช้า
- ดื่มน้ำและทานอาหารโซเดียมต่ำ: ดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดเพื่อป้องกันการบวมน้ำ
- รับประทานยา (ตามความจำเป็น): สามารถรับประทานยาแก้ปวดลดอักเสบ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen หรือยาแก้แพ้ (Antihistamines) เพื่อช่วยลดอาการบวมได้
ข้อห้าม:
- ออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วหรือหน้าแดงร้อนเป็นเวลา 2-3 วัน
- สัมผัสความร้อน: งดการเข้าซาวน่า สตรีม หรืออาบน้ำร้อนจัดในช่วง 2-3 วันแรก
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ซึ่งจะขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของผิว
- ขัดหรือนวดหน้าแรงๆ: ห้ามถูหรือนวดผิวหน้าอย่างรุนแรงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง: หลีกเลี่ยงการใช้สครับ กรดผลไม้ หรือเรตินอยด์เป็นเวลา 3-7 วัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนพร้อมทาครีมกันแดดเป็นประจำ
กิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงสัปดาห์แรก
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำ Ultherapy ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังใบหน้า, การสัมผัสความร้อนสูง, การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รุนแรง เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุดและลดอาการบวม
กิจกรรมและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่:
- การออกกำลังกายหนัก: เช่น การคาร์ดิโออย่างหนัก หรือการยกน้ำหนัก เพราะจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ซึ่งอาจทำให้อาการบวมแย่ลง
- การสัมผัสความร้อนสูง: ควรหลีกเลี่ยงซาวน่า, อ่างน้ำร้อน, ห้องอบไอน้ำ และการอาบน้ำร้อนจัด เนื่องจากความร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มการอักเสบ
- การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่: ควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้น ส่วนการสูบบุหรี่จะขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของผิว
- การขัดหรือนวดใบหน้าอย่างรุนแรง: ควรทำความสะอาดและสัมผัสใบหน้าอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อที่กำลังฟื้นตัวระคายเคือง
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด, เรตินอยด์ หรือสครับขัดผิวอย่างน้อย 3-7 วัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนพร้อมทาครีมกันแดดเป็นประจำ
อาหารและเครื่องดื่มที่ควรงดเพื่อป้องกันอาการบวมเพิ่ม
เพื่อป้องกันอาการบวมเพิ่มหลังทำ Ultherapy ควรงดอาหารรสเค็มจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้อาการบวมแย่ลงได้
- อาหารรสเค็มจัด: อาหารที่มีโซเดียมสูงจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ใบหน้าบวมกว่าเดิม
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งเป็นการกระตุ้นการอักเสบและอาจเพิ่มอาการบวมได้ จึงควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังทำ
- อาหารรสเผ็ดจัด: อาจทำให้ใบหน้าแดงและร้อน ซึ่งเป็นการกระตุ้นการอักเสบชั่วคราว
- คาเฟอีนปริมาณมาก: อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและส่งผลต่ออาการบวมได้
อาการบวมหลังทำ Ulthera แบบไหนที่ถือว่าผิดปกติและควรพบแพทย์?
อาการบวมที่รุนแรงหรือยาวนานผิดปกติ, มีสัญญาณของการติดเชื้อ, หรือมีอาการผิดปกติทางเส้นประสาท ถือเป็นภาวะที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
คุณควรติดต่อแพทย์หากพบอาการต่อไปนี้:
- อาการบวมรุนแรงหรือยาวนาน: มีอาการบวมมากผิดปกติ เจ็บปวดรุนแรง หรืออาการบวมไม่ยุบลงแม้จะผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์
- สัญญาณการติดเชื้อ: บริเวณที่ทำหัตถการมีรอยแดงจัดและร้อนขึ้นเรื่อยๆ มีหนองไหล หรือมีไข้
- แผลพุพอง: เกิดตุ่มน้ำพองหรือผิวหนังแตกบริเวณที่ทำ Ulthera
- อาการทางเส้นประสาท: รู้สึกชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น มุมปากตก ยิ้มได้ไม่เต็มที่ หรือยกคิ้วลำบาก ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 2-3 สัปดาห์
สัญญาณเตือนของอาการบวมที่ไม่ใช่เรื่องปกติ
สัญญาณเตือนของอาการบวมที่ผิดปกติคืออาการบวมที่รุนแรง เจ็บปวดมาก หรือไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ รวมถึงการมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ตุ่มน้ำพอง หรือสัญญาณของการติดเชื้อ
ควรติดต่อแพทย์ทันทีหากพบอาการต่อไปนี้
- ตุ่มน้ำพองหรือแผลบนผิวหนัง: อาจบ่งชี้ถึงการไหม้ที่ผิวชั้นบน
- สัญญาณของการติดเชื้อ: เช่น รอยแดงที่ลุกลาม รู้สึกร้อนบริเวณที่ทำ มีหนอง หรือมีไข้
- อาการบวมที่นานผิดปกติ: หากอาการบวมอย่างมีนัยสำคัญยังคงอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์
- อาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง: อาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง (เช่น ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด) ที่ไม่หายไปเอง
- รอยบุ๋มหรือผิวหนังยุบตัว: อาจสังเกตเห็นหลังจากอาการบวมหายไปแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง
ควรติดต่อคลินิกหรือโรงพยาบาลเมื่อไหร่?
ควรติดต่อคลินิกหรือแพทย์ทันที หากมีอาการบวมที่รุนแรงหรือยาวนานผิดปกติ มีสัญญาณของการติดเชื้อ หรือมีผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด โดยสัญญาณเตือนที่ควรสังเกตมีดังนี้
- อาการบวมที่ผิดปกติ: มีอาการบวมมาก เจ็บปวดรุนแรง หรืออาการบวมไม่ดีขึ้นและยังคงอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์
- สัญญาณการติดเชื้อ: มีตุ่มน้ำพอง แผลพุพอง รอยแดงที่ลุกลาม มีหนอง หรือมีไข้
- ผลกระทบต่อเส้นประสาท: มีอาการชาหรือกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง เช่น ปากเบี้ยว ยักคิ้วลำบาก ซึ่งอาการไม่ดีขึ้นเอง
- การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง: สังเกตเห็นผิวบุ๋มหรือยุบตัวลงหลังจากอาการบวมหายไปแล้ว
เปรียบเทียบอาการบวม: Ulthera แตกต่างจาก Ultraformer และ HIFU อย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว อาการบวมหลังทำ Ulthera, Ultraformer และเครื่อง HIFU อื่นๆ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทุกเครื่องใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) เพื่อสร้างความร้อนใต้ผิวหนังในลักษณะเดียวกัน ทำให้เกิดการตอบสนองของร่างกายเพื่อซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการบวม
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเครื่องไม่ได้อยู่ที่ผลข้างเคียงเรื่องอาการบวม แต่เป็นเรื่องเทคโนโลยีเสริม:
- Ulthera: มีเทคโนโลยีแสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ (Real-time visualization) ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นชั้นผิวและยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- Ultraformer และ HIFU อื่นๆ: มักจะไม่มีหน้าจอแสดงภาพ แต่ก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ บางรุ่นอาจมีจุดเด่นด้านความเร็วในการยิงพลังงาน ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและความเจ็บระหว่างทำหัตถการได้
อย่างไรก็ตาม กระบวนการอักเสบเพื่อฟื้นฟูหลังทำของทุกเครื่องยังคงเหมือนกัน ดังนั้นผู้ป่วยจึงสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีอาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-3 วันถึงหนึ่งสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยี่ห้อใดก็ตาม
ความแตกต่างของระดับพลังงานและผลข้างเคียง
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางคลินิกในด้านระดับพลังงานหรือผลข้างเคียงระหว่างเครื่อง Ultherapy และเครื่อง HIFU คุณภาพอื่นๆ เช่น Ultraformer เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีผลลัพธ์ทางชีวภาพที่เทียบเท่ากัน
แม้ว่าระดับพลังงาน (จูล) ต่อช็อตอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละอุปกรณ์ แต่ผู้ผลิตได้ปรับเทียบเครื่องเพื่อให้เกิดจุดความร้อน (Thermal Coagulation Points) ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ดังนั้น ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด เช่น อาการบวมและรอยแดง จึงมีลักษณะคล้ายกันมาก คือเป็นอาการเพียงเล็กน้อยและหายได้เองภายใน 2-3 วัน ความแตกต่างของผลข้างเคียงมักขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของผู้ทำหัตถการมากกว่ายี่ห้อของเครื่อง เช่น การใช้พลังงานสูงเกินไปหรือการยิงซ้ำซ้อนในบริเวณเดียวกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการบวมได้
ระยะเวลาบวมของแต่ละเทคโนโลยี
โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาบวมหลังทำ Ultherapy, HIFU ชนิดอื่น และ Thermage นั้นใกล้เคียงกัน โดยมักจะบวมเล็กน้อยและหายได้เองภายใน 2-3 วันถึงหนึ่งสัปดาห์
- Ultherapy และ HIFU อื่นๆ (เช่น Ultraformer): มีอาการบวมและระยะเวลาพักฟื้นที่ใกล้เคียงกันมาก โดยอาการบวมเล็กน้อยจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- Thermage (คลื่นวิทยุ): อาจมีอาการบวมได้นาน 2-3 วันถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งคล้ายกับ Ultherapy
- Sofwave (คลื่นอัลตราซาวด์): มีแนวโน้มที่จะบวมน้อยกว่าเทคโนโลยีอื่น เนื่องจากทำงานในชั้นผิวที่ตื้นกว่า
References
Peer-Reviewed & Academic Sources
- Marquardt, K. et al. Microfocused ultrasound with visualization induces remodeling of collagen and elastin within the skin. Journal of Cosmetic Dermatology. Wiley. https://wiley.com
- U.S. National Library of Medicine. PubMed Central Database. https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov
Clinic & Practitioner Articles
- CheongAyeon Clinic (Seoul). Why does swelling occur after Ulthera and how to resolve it? CheongAyeon Dermatology FAQ. https://purehealing.co.kr
- Yoon, S. Q&A: Is Ulthera swelling severe and how long does it last? DocTalk Online Consultation. https://doctalk.co.kr
- Hautästhetik Mannheim. Ultherapy mechanism: Wound healing phases and collagen remodeling (Science Brief). https://hautaesthetik-mannheim.de
- Private Clinic Kichijoji (Tokyo). Ulthera treatment – Post-treatment course and what to expect. https://kichijoji.tokyo
- The Skin Center. Ultherapy® Pre- and Post-Treatment Instructions. https://theskincentermd.com
- Rebecca Fitzgerald, MD. Ultherapy Treatment Guidelines & Aftercare Tips. https://rebeccafitzgeraldmd.com
- Longevity Aesthetics & Laser Spa. Get Firm: The perks of non-surgical skin tightening. https://longevityok.com
Additional Informational Sources
- RealSelf. Patient reviews and discussions on Ultherapy. https://realself.com
- ResearchGate. Ultherapy and HIFU-related studies. https://researchgate.net