ทำ Ulthera เจ็บไหม? ผลข้างเคียงและการดูแลตัวเอง
ระดับความเจ็บของการทำ Ulthera เป็นอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วการทำ Ulthera จะทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายผิวในระดับที่สังเกตได้แต่สามารถทนได้ โดยผู้ป่วยมักให้คะแนนความเจ็บเฉลี่ยอยู่ที่ 4–5 จาก 10 คะแนน
ความรู้สึกเจ็บมักถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนถูกดีดด้วยยางรัด หรือมีเข็มเล็กๆ ทิ่มลึกใต้ผิวหนังพร้อมกับความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความเจ็บจะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะที่เครื่องปล่อยพลังงานลงสู่ผิวและจะหายไปทันที ระดับความเจ็บจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและบริเวณที่ทำ โดยเฉพาะบริเวณใกล้กระดูก เช่น แนวกรามและหน้าผาก จะรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณอื่น แต่ด้วยการใช้ยาชาและเทคนิคการจัดการความเจ็บปวดอื่นๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงสามารถทนต่อความเจ็บได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความเจ็บของแต่ละบุคคล
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับความเจ็บระหว่างทำ Ultherapy ได้แก่ ความอดทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล บริเวณที่ทำการรักษา และเทคนิคของผู้ทำหัตถการ
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ประสบการณ์ความเจ็บปวดของแต่ละคนแตกต่างกันไป ดังนี้
- ความอดทนต่อความเจ็บปวด: แต่ละคนมีความทนทานต่อความเจ็บปวดโดยธรรมชาติไม่เท่ากัน
- บริเวณที่ทำการรักษา: บริเวณที่ผิวบาง ใกล้กระดูกและเส้นประสาท เช่น แนวกรามและหน้าผาก มักจะรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณที่มีเนื้อเยอะอย่างแก้ม
- การตั้งค่าพลังงานและเทคนิค: การใช้พลังงานที่สูงขึ้นหรือการยิงคลื่นเสียงที่ถี่เกินไปสามารถเพิ่มความรู้สึกไม่สบายตัวได้
- ความชำนาญของผู้ทำหัตถการ: ผู้ที่มีประสบการณ์สามารถลดความเจ็บปวดได้ด้วยเทคนิคที่เหมาะสม เช่น การวางหัวยิงอย่างมั่นคง และการปรับค่าพลังงานในบริเวณที่บอบบาง
การใช้ยาชาช่วยลดความเจ็บได้มากน้อยเพียงใด?
ยาชาเฉพาะที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างมาก โดยทำให้ความรู้สึกบริเวณผิวชั้นบนลดลงและบรรเทาความเจ็บแปลบในตอนแรกได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Ultherapy ส่งพลังงานลงไปลึกถึงชั้น SMAS ยาชาจึงไม่สามารถกำจัดความรู้สึกปวดลึกๆ หรือความร้อนได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้คนไข้ส่วนใหญ่รู้สึกว่าทนต่อความเจ็บได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ใช้ยาชาเลย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บมาก
ทำไมการทำ Ulthera ถึงทำให้รู้สึกเจ็บ?
การทำ Ulthera ทำให้รู้สึกเจ็บเนื่องจากพลังงานอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงจะถูกส่งลงไปลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีเส้นประสาทอยู่มาก
เมื่อพลังงานกระทบกับชั้นผิวเป้าหมาย จะทำให้เกิดความร้อนอย่างรวดเร็วและรุนแรงในบริเวณนั้น ผู้รับการรักษาจึงรู้สึกเหมือนโดนดีดเบาๆ หรือรู้สึกร้อนจี๊ดๆ ลึกใต้ผิวหนังในขณะที่ปล่อยพลังงานแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางและใกล้กระดูก เช่น แนวกรามและหน้าผาก
หลักการทำงานของคลื่นเสียงที่ชั้นผิว SMAS
หลักการทำงานของ Ultherapy คือการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์พลังงานสูงแบบเฉพาะเจาะจง (Micro-focused ultrasound) ยิงลงไปที่ชั้นผิว SMAS เพื่อสร้างจุดความร้อนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ควบคุมได้โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก จากนั้นร่างกายจะตอบสนองด้วยกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวจึงยกกระชับและเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ
ความรู้สึกเจ็บเป็นสัญญาณของประสิทธิภาพหรือไม่?
ความรู้สึกเจ็บ ไม่ได้เป็นสัญญาณของประสิทธิภาพในการทำ Ultherapy แต่เป็นเพียงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเมื่อพลังงานอัลตราซาวนด์กระทบชั้นผิวที่อุดมด้วยเส้นประสาท
ประสิทธิภาพของการรักษาขึ้นอยู่กับการส่งพลังงานที่เหมาะสมไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่ใช่ระดับความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยรู้สึก ผู้ป่วยสามารถได้รับผลลัพธ์การยกกระชับที่ดีเยี่ยมแม้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยก็ตาม
นอกเหนือจากความเจ็บแล้ว การทำ Ulthera มีผลข้างเคียงอะไรอีกบ้าง?
นอกเหนือจากความเจ็บแล้ว ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของการทำ Ulthera คืออาการบวมแดง, อาการบวมเล็กน้อย, และอาการระบมเมื่อสัมผัส ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาการชั่วคราวและจะหายไปเอง
ผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่:
- รอยแดงและอาการบวม: รอยแดงมักจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง ส่วนอาการบวมเล็กน้อยจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน
- อาการระบมหรือเจ็บเมื่อสัมผัส: โดยทั่วไปจะหายภายใน 2 วัน แต่อาจคงอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ โดยเฉพาะบริเวณแนวกระดูก
- รอยช้ำ: พบได้ไม่บ่อย และหากเกิดขึ้นมักเป็นรอยเล็กน้อยและจะจางหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
- รอยนูนเป็นแนว: อาจเกิดรอยนูนหรือแนวเส้นบนผิวหนังได้ชั่วคราว ซึ่งโดยทั่วไปจะหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์
- อาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว: เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก เกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงถูกกระทบกระเทือนชั่วคราว และอาการจะหายไปเองภายใน 2-6 สัปดาห์
- ผลข้างเคียงที่พบได้ยาก: ในกรณีที่พบได้ยากมากและมักเกี่ยวข้องกับเทคนิคการทำที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะไขมันฝ่อ รอยไหม้ หรือแผลเป็นได้
อาการบวมหลังทำ Ulthera เป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อาการบวมเล็กน้อยหลังทำ Ulthera เป็นเรื่องปกติและเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป อาการบวมมักไม่รุนแรง อาจรู้สึกว่าผิว “อูม” หรือ “แน่น” ขึ้นในบริเวณที่ทำ และโดยทั่วไปจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณปกติของการตอบสนองเพื่อการฟื้นฟูของร่างกายต่อพลังงานอัลตราซาวนด์
อาการบวมจะหายไปภายในกี่วัน?
โดยทั่วไปอาการบวมหลังทำ Ultherapy จะหายไปภายใน 1-3 วัน
ตามข้อมูลจากคู่มืออุปกรณ์ Ultherapy อาการบวมน้ำ (edema) มักจะหายไปภายใน 3 ถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นว่าอาการบวมลดลงอย่างเห็นได้ชัดในวันที่สองหรือสามหลังทำ
วิธีลดอาการบวมที่ได้ผลมีอะไรบ้าง?
วิธีลดอาการบวมที่ได้ผลหลังทำ Ultherapy คือ การประคบเย็น การนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูง และการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อน
- ประคบเย็น: สามารถใช้ถุงน้ำแข็งประคบบริเวณที่บวมครั้งละ 5-10 นาที เพื่อช่วยลดการอักเสบ
- ยกศีรษะให้สูง: ในคืนแรกหลังทำ ควรนอนหนุนหมอนเสริมเพื่อให้ศีรษะสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมบนใบหน้าได้
- หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมหนัก: ควรงดการออกกำลังกายหนักๆ ซาวน่า หรืออ่างน้ำร้อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการบวมแย่ลง
ความเสี่ยงและข้อเสียอื่นๆ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ
ความเสี่ยงและข้อเสียหลักๆ ของ Ultherapy คือความเจ็บปวดระหว่างทำ และผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยแต่รุนแรงกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม โดยความเสี่ยงและข้อเสียอื่นๆ ที่อาจพบได้มีดังนี้
- ความเจ็บปวดระหว่างทำ: ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ หรือร้อนลึกใต้ผิวหนังคล้ายยางดีดหนังในขณะที่เครื่องปล่อยพลังงาน ซึ่งเป็นข้อเสียที่พบได้บ่อยที่สุด
- ผลข้างเคียงชั่วคราวที่พบได้บ่อย:
- อาการบวมแดง: มักหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 2-3 วัน
- อาการกดเจ็บ: อาจรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสบริเวณที่ทำ ซึ่งจะค่อยๆ หายไปใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์
- รอยช้ำหรือตุ่มนูน: อาจเกิดรอยช้ำเล็กน้อยหรือตุ่มนูนคล้ายลมพิษ ซึ่งจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
- ความเสี่ยงที่พบได้น้อยแต่รุนแรง:
- ผลกระทบต่อเส้นประสาท: อาจเกิดอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว ซึ่งพบได้น้อยมากและมักจะหายได้เองภายใน 2-6 สัปดาห์
- ไขมันบนใบหน้าฝ่อ: เป็นความเสี่ยงที่พบได้ยากมาก เกิดจากการใช้พลังงานที่ผิดพลาด ทำให้ไขมันบางส่วนสลายไป
- ผิวไหม้หรือแผลเป็น: พบได้น้อยมาก มักเกิดจากความผิดพลาดในการใช้เครื่องมือ เช่น การวางหัวยิงไม่แนบสนิทกับผิว หรือการยิงพลังงานซ้ำจุดเดิมมากเกินไป
มีวิธีจัดการกับความเจ็บระหว่างและหลังทำ Ulthera หรือไม่?
มีหลายวิธีที่ใช้ในการจัดการความเจ็บปวดระหว่างและหลังการทำ Ulthera ซึ่งช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
วิธีการจัดการความเจ็บปวด ระหว่าง ทำหัตถการ ได้แก่:
- การทายาชาเฉพาะที่ เป็นวิธีมาตรฐานที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บที่ผิวหนังชั้นบนได้อย่างมาก
- การรับประทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol) ก่อนทำหัตถการ
- การใช้ยาคลายกังวล สำหรับผู้ที่มีความวิตกกังวลสูง เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและทนต่อความเจ็บได้ดีขึ้น
- เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น การใช้อุปกรณ์สั่นนวดเบาๆ ที่ผิว หรือการที่ผู้เชี่ยวชาญชวนคุยระหว่างทำ เพื่อลดการจดจ่อกับความเจ็บ
- การฉีดยาชาเฉพาะจุด (Nerve Block) ในบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกเป็นพิเศษ เช่น แนวกราม ซึ่งเป็นวิธีที่พบได้ไม่บ่อยนัก
ส่วนการดูแลเพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย หลัง ทำหัตถการ ได้แก่:
- การประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวมหรือรอยแดง
- การรับประทานยาแก้ปวด หากยังมีอาการปวดหรือระบมอยู่
- การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก หรือซาวน่า เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาการบวมแย่ลง
- การนอนหนุนหมอนสูง ในคืนแรกเพื่อช่วยลดอาการบวมบนใบหน้า
เทคนิคการเตรียมตัวเพื่อลดความกังวลและความเจ็บ
เทคนิคการเตรียมตัวเพื่อลดความเจ็บและความกังวลก่อนทำ Ultherapy ประกอบด้วยการใช้ยา การทายาชา และเทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ
โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำวิธีการต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นในระหว่างการทำหัตถการ ดังนี้
- การใช้ยา: แนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Acetaminophen) ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนทำ สำหรับผู้ที่มีความกังวลสูง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาคลายกังวลหรือยากล่อมประสาทในปริมาณต่ำ
- การทายาชา: การทายาชาเฉพาะที่เป็นวิธีมาตรฐานที่ช่วยลดความเจ็บปวดบริเวณผิวหนังได้อย่างมาก แม้ว่าจะไม่สามารถกำจัดความรู้สึกเจ็บในชั้นผิวที่ลึกได้ทั้งหมด แต่ก็ทำให้ความเจ็บปวดอยู่ในระดับที่ทนได้
- เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ: แพทย์อาจใช้อุปกรณ์สั่นเพื่อรบกวนสัญญาณประสาท หรือใช้เทคนิค “Talk Anesthesia” คือการชวนผู้ป่วยพูดคุยตลอดการทำหัตถการเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด
- การฉีดยาชา (Nerve Blocks): ในกรณีที่ผู้ป่วยทนความเจ็บปวดได้น้อยมาก หรือในบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกเป็นพิเศษ แพทย์อาจพิจารณาฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อระงับความรู้สึก
การดูแลตัวเองหลังทำเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
การดูแลตัวเองหลังทำ Ultherapy เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและบวมสามารถทำได้โดยการรับประทานยาแก้ปวดและการประคบเย็น นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำอื่นๆ เพื่อช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ดังนี้
- รับประทานยาแก้ปวด: สามารถรับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อช่วยลดอาการปวดหรือเจ็บระบมหลังทำได้
- ประคบเย็น: หากมีอาการบวมแดงหรือเกิดรอยนูน สามารถใช้การประคบเย็นหรือน้ำแข็งห่อผ้าประคบบริเวณที่ทำครั้งละ 5-10 นาทีเพื่อช่วยลดการอักเสบ
- หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมหนัก: ควรงดการออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนและมีเลือดสูบฉีดมากเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาการบวมแย่ลง
- หนุนหมอนสูง: ในคืนแรกหลังทำ ควรนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงกว่าปกติเพื่อช่วยลดอาการบวมบนใบหน้า
ความเจ็บจากการทำ Ulthera แตกต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว Ulthera ถือเป็นหัตถการที่เจ็บกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยียกกระชับผิวอื่นๆ เนื่องจากเป็นการส่งพลังงานความร้อนแบบจุดโฟกัสลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่มีเส้นประสาทมาก
ความแตกต่างของความเจ็บเมื่อเทียบกับหัตถการอื่น มีดังนี้
- เทียบกับการร้อยไหม (Thread Lift): Ulthera จะเจ็บกว่า *ระหว่าง* ทำ แต่หลังทำจะรู้สึกแค่ระบมเล็กน้อย ในขณะที่การร้อยไหมจะเจ็บน้อยกว่าระหว่างทำเพราะใช้ยาชา แต่จะมีความเจ็บปวด บวม และช้ำ *หลัง* ทำมากกว่า
- เทียบกับ Thermage: Thermage มักจะเจ็บน้อยกว่า โดยให้ความรู้สึกร้อนแผ่เป็นวงกว้างและมีระบบสั่นช่วยลดความเจ็บ ในขณะที่ Ulthera ให้ความรู้สึกเจ็บแปลบๆ หรือจี๊ดๆ ที่ลึกกว่า
- เทียบกับ HIFU รุ่นอื่น: HIFU รุ่นใหม่ๆ เช่น Ultraformer III มักจะเจ็บน้อยกว่า Ulthera เนื่องจากมีการปรับปรุงเทคโนโลยีการส่งพลังงาน ทำให้ใช้เวลาทำสั้นลงและผู้ป่วยรู้สึกสบายกว่า
เปรียบเทียบความเจ็บ: Ulthera vs ร้อยไหม
Ulthera จะเจ็บกว่าระหว่างทำ ในขณะที่การร้อยไหมจะเจ็บและระบมมากกว่าหลังทำ
ความเจ็บของทั้งสองหัตถการแตกต่างกันที่ช่วงเวลาที่เกิดความเจ็บปวด
- Ulthera: ความเจ็บเกิดขึ้นระหว่างการยิงพลังงานอัลตราซาวด์ ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกร้อนหรือเหมือนถูกดีดลึกๆ ใต้ผิวหนัง แต่หลังทำเสร็จจะเหลือเพียงอาการระบมเล็กน้อยเท่านั้น
- ร้อยไหม (PDO Threads): ระหว่างทำจะไม่ค่อยเจ็บเนื่องจากมีการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อระงับความรู้สึก แต่อาจรู้สึกถึงแรงกดหรือแรงดึงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม หลังทำมักมีอาการเจ็บระบม บวม หรือช้ำตามแนวไหมได้นานหลายวัน
เปรียบเทียบความเจ็บ: Ulthera vs Thermage vs Hifu
โดยทั่วไปแล้ว Ulthera (อัลเทอร่า) มักถูกจัดว่าเจ็บที่สุด รองลงมาคือ Thermage (เทอร์มาจ) และ Hifu (ไฮฟู) รุ่นใหม่ๆ มักจะเจ็บน้อยที่สุด
- Ulthera: เจ็บที่สุดเพราะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงเป็นจุดเล็กๆ ที่อุณหภูมิสูง (60-70°C) ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่มีเส้นประสาทเยอะ ทำให้รู้สึกเจ็บแปลบหรือเหมือนมีหนังสติ๊กดีดลึกๆ
- Thermage: เจ็บน้อยกว่าเพราะใช้คลื่นวิทยุ (RF) ให้ความร้อนในพื้นที่กว้างกว่าและอุณหภูมิต่ำกว่า (ประมาณ 40-50°C) อีกทั้งยังมีระบบสั่นและปล่อยความเย็นเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บ ทำให้รู้สึกเหมือนการนวดอุ่นๆ ที่มีความร้อนแทรกเป็นครั้งคราว
- Hifu รุ่นอื่นๆ: เครื่อง Hifu รุ่นใหม่ๆ เช่น Ultraformer III มักถูกพัฒนาให้เจ็บน้อยลง โดยอาจมีระยะเวลาการปล่อยพลังงานที่สั้นกว่าหรือใช้เวลาทำน้อยกว่า ในขณะที่บางเครื่องอย่าง Sofwave จะเจ็บน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะเน้นการรักษาในชั้นผิวที่ตื้นกว่าและไม่ได้ลงลึกถึงชั้น SMAS ที่ไวต่อความรู้สึกเจ็บ
ควรดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำ Ulthera เพื่อลดอาการเจ็บและบวม?
หลังทำ Ulthera เพื่อลดอาการเจ็บและบวม ควรประคบเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนและการออกกำลังกายหนัก และหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นเวลานอน
คำแนะนำในการดูแลตัวเองมีดังนี้:
- ประคบเย็น ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณที่ทำนาน 5-10 นาที เพื่อช่วยลดการอักเสบและอาการบวม
- หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมหนัก งดการออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือแช่น้ำร้อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแรก เพราะความร้อนจะกระตุ้นให้บวมมากขึ้น
- หนุนหมอนสูง ในคืนแรกหลังทำ ควรนอนหนุนหมอนสูงกว่าปกติเพื่อช่วยลดอาการบวมบนใบหน้า
- ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและมอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน และงดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์หรือสารผลัดเซลล์ผิว 2-3 วัน เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง
ข้อควรปฏิบัติทันทีหลังทำ Ulthera
ข้อควรปฏิบัติทันทีหลังทำ Ulthera คือการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากและการสัมผัสความร้อน รวมถึงการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลตนเองทันทีหลังการรักษามีดังนี้:
- ประคบเย็น: หากมีอาการบวมแดงหรือเป็นรอยนูน สามารถประคบเย็นครั้งละ 5-10 นาทีเพื่อลดการอักเสบ
- หลีกเลี่ยงความร้อนและการออกกำลังกาย: ควรงดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนหรือมีเหงื่อออกมาก เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรืออบไอน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาการบวมแย่ลง
- ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรง เช่น เรตินอยด์หรือกรดผลไม้ 2-3 วัน
- หนุนหมอนสูง: การนอนโดยหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นในคืนแรกจะช่วยลดอาการบวมบนใบหน้าได้
- ทาครีมกันแดด: ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงและรักษาผลลัพธ์ของการรักษา
ข้อห้ามสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ข้อห้ามสำคัญหลังทำ Ultherapy คือ การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูง การสัมผัสแสงแดดโดยตรง และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจระคายเคืองผิว ในช่วงแรก
เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน: ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก การเข้าซาวน่า หรือการแช่น้ำร้อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการบวมเพิ่มขึ้น
- ปกป้องผิวจากแสงแดด: ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีและป้องกันการเกิดปัญหาเม็ดสีผิวผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง: ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมรุนแรง เช่น เรตินอยด์ หรือสารผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 2-3 วัน
- เลื่อนหัตถการอื่น: ควรเว้นระยะการทำเลเซอร์ การลอกผิว หรือหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้าออกไปก่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่: แนะนำให้งดการสูบบุหรี่ เนื่องจากจะขัดขวางกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอาจลดทอนประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้
References
Peer-Reviewed Articles & Academic Sources
-
Marquardt, K. et al. (2025). Microfocused ultrasound with visualization induces remodeling of collagen and elastin within the skin. Journal of Cosmetic Dermatology. Wiley. Available at: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/
-
Biskanaki, F. et al. (2025). Complications and risks of high-intensity focused ultrasound (HIFU) in esthetic procedures: A review. Applied Sciences. MDPI. Available at: https://www.mdpi.com/
-
Contini, M. et al. (2023). A systematic review of the efficacy of microfocused ultrasound for facial skin tightening. International Journal of Environmental Research and Public Health. MDPI. Available at: https://www.mdpi.com/
Manufacturer & Official Guidelines
- Ulthera, Inc. (2023). Ultherapy System – Instructions for Use (IFU) Rev.D. Available at: https://www.ultherapy.com/
Clinical Practice & Patient Education Sources
- Visodent NYC. (2024). Ultherapy: Does It Hurt? Pain Management Tips. Available at: https://www.visodentnyc.com/